มหัศจรรย์สัตว์โลก
ในปัจจจุบันเต็มไปด้วยสิ่งมีชีวิตหลายสิ่งหลายอย่างหลาย หลากหลายพันธุ์
ซึ่งวันนี้จะมายกตัวอย่างของสัตว์ที่น่าทึ่งและน่าสนใจมาให้ได้ดูกัน 3 ชนิดดังต่อไปนี้
มด
มด เป็น แมลง ชนิด หนึ่ง ใน ตระกูล Formicidae เรา พบ เห็น มด ใน ทุก หน แห่ง นอก จาก ใน ทวีป แอนตาร์กติกา ที่ มี น้ำ แข็ง ปก คลุม ตลอด ปี มด เป็น สัตว์ สังคม ที่ มี ความ สามารถ หลาย ด้าน และ มี พฤติกรรม ที่ น่า สน ใจ มาก ถึง ระดับ ที่ ทำ ให้ มัน เป็น สัตว์ ที่ คน สน ใจ ศึกษา มาก ที่ สุด
ถึง แม้ มด จะ มี น้ำ หนัก ตัว เบา เมื่อ เทียบกับคน ก็ ตาม แต่ ถ้า เรา ชั่ง น้ำ หนัก ของ มด ทั้ง โลก เรา ก็ จะ พบ ว่า มัน มี น้ำ หนัก พอๆ กับคน ทั้ง โลก ที เดียว นัก วิทยา ศาสตร์ หลาย คน คิด ว่า มด มี วิวัฒนาการ จาก แมลง ดึกดำบรรพ์ ที่ ดำรง ชีวิต เป็น กา ฝาก ตาม ตัว แมลง ชนิด อื่น และ ถือ กำเนิด เกิด มา บน โลก เมื่อ ประมาณ 40 ล้าน ปี มา แล้ว
แต่ ใน วาร สาร Nature ฉบับ วัน ที่ 29 มกราคม ที่ ผ่าน มา นี้ D. Agosti แห่ง American Museum of Natural History ที่ New York ใน สหรัฐ อเมริการและ คณะ ได้ ราย งาน ว่า เขา ได้ พบ ซากฟอสซิล ของ มด ที่ มี อายุ ถึง 92 ล้าน ปี ซึ่ง นับ ว่า ดึกดำบรรพ์ กว่า ที่ คิดเดิมถึง 2 เท่า ตัว ใน ยาง สน ของ ต้น ไม้ ต้น หนึ่ง ใน รัฐ New Jersey สหรัฐ อเมริกา ซาก มด ที่ เขา พบ นี้ เป็น ซาก ของ มด งาน ตัว เมีย 3 ตัว และ ตัว ผู้ 4 ตัว มด กลุ่ม นี้ มี อวัยวะ และ ต่อ มา ของ ร่าง กาย ที่ ชัด เจน ว่า เป็น มด เช่น มี ต่อม metapleural ที่ ทำ หน้า ที่ ขับ สาร ปฏิชีวนะ ออก มา เพื่อ ปก ป้อง มด มิ ให้ เป็น อันตราย จาก การ ถูก จุลินทรีย์ คุก คาม จึง ทำ ให้ มัน สามารถ ดำรง ชีพ อยู่ ใต้ ดิน หรือ ตาม ต้น ไม้ ที่ เน่า เปื่อย ได้ สบายๆ และ ยัง ใช้ สาร เคมี ที่ ขับ ออก มา จาก ต่อม นี้ ใน การ ติด ต่อ สื่อ สาร ถึง กัน อัน มี ผล ทำ ให้ มัน เป็น สัตว์ สังคม ที่ ดี ที่ สามารถ ใน ที่ สุด Agosti และ คณะ จึง คาด คะเน ว่า มด คง ถือ กำเนิด เกิด มา บน โลก เมื่อ 130 ล้าน ปี ก่อน ซึ่ง ยุค นั้น เป็น ยุค ที่ นัก ธรณี วิทยา เรียก ว่า ยุค Cretaceores และ เป็น ยุค ที่ ไดโนเสาร์ ยัง ครอง โลก อยู่ แต่ มด ก็ มิ ได้ มี บท บาท สำคัญ ทัน ที ทัน ใด มด เริ่ม มี ความ หลาก หลาย ทางชีวภาพ ใน ยุค ต่อ มา คือ ยุค Tertiary คือ เมื่อ ไดโนเสาร์ สูญ พันธุ์ ไป จน หมด สิ้น แล้ว ปัจจุบัน มด มี ความ สำคัญ ต่อ ระบบ นิเวศ ของ โลก มาก โดย เฉพาะ ใน บริเวณ เขต ร้อน ของ โลก ป่า ดง ดิบ ใน เขต นี้ จะ ขาด มด ไม่ ได้ เลย
นัก ชีววิทยา ได้ ศึกษา ธรรม ชาติ ของ มด มา นาน กว่า หนึ่ง ศต วรรษ แล้ว และ ได้ พบ ว่า ยิ่ง ศึกษา มด มาก ขึ้น เพียง ใด เขา ก็ ยิ่ง ทึ่ง ใน ความ สามารถ ของ มัน มาก ขึ้น เพียง นั้น เมื่อ 5 ปี ก่อน นี้ B.Holldobler และ E.O. Wilson ได้ เขียน วรรณกรรม The Ants บรรยาย ธรรม ชาติ ของ มด ตั้ง แต่ วิวัฒนาการ ตลอด จน พฤติกรรม ทุก รูป แบบ ของ มด จน ทำ ให้ หนังสือ เล่ม นี้ ได้ รับ รางวัล pulitzer ของ อเมิรกา และ ใคร ที่ อ่าน หนังสือ เล่ม นี้ มัก จะ คิด ว่า มนุษย์ รู้ จัก มด ดี แล้ว แต่ ความ จริง หา ได้ เป็น เช่น นั้น ไม่ เพราะ เรา กำลัง ได้ รับ ความ รู้ ใหม่ๆ เกี่ยวกับมด อยู่ ตลอด เวลา เช่น C.Errand แห่ งม หา วิทยา ลัย Paris ได้ เคย ราย งาน ไว้ ใน วาร สาร Animal Behavior เมื่อ 2 ปี ก่อน นี้ ว่า มด ที่ อยู่ ใน อาณา จักร เดียว กัน จะ มี ความ สนิท สนม กัน และ คุ้น เคย กัน โดย อาศัย กลิ่น จาก สาร เคมี pheromone ที่ มด ขับ ออก มา จาก ร่าง กาย เพราะ หลัง จาก ที่ ได้ ทด ลอง เลี้ยง มด ให้ อยู่ ด้วย กัน นาน 3 เดือน แล้ว จับ แยก กัน นาน 18 เดือน มัน ก็ ยัง จำ เพื่อน ของ มัน ได้
ส่วน มด Formica selysi นั้น Errand ก็ ได้ พบ ว่า ตาม ธรรม ดา เป็น มด กาฝาก ที่ ชอบ เกาะ มด อื่นๆ กิน ราชินี ของ มด พันธุ์ นี้ มัก จะ ใช้ ความ สามารถ ใน การ ปลอม กลิ่น บุก รุก เข้า รัง มด พันธุ์ อื่น แล้ว ฆ่า ราชินี มด เจ้า ของ รัง จาก นั้น ก็ สถาปนา ตน เอง ขึ้น เป็น ราชินี มด เจ้า ของ รัง จาก นั้น ก็ สถาปนา ตน เอง ขึ้น เป็น ราชินี แทน แล้ว บังคับ มด งาน ทั้ง หลาย ให้ ทำ งาน สนอง ความ ต้อง การ ของ ตน เอง ทุก รูป แบบ เมื่อ ไม่ นาน มา นี้ นัก ชีววิทยา กลุ่ม หนึ่ง ได้ ศึกษา มด Polygerus ที่ ทำ รัง อยู่ ตาม ลุ่ม น้ำ อะเมซอน ในบรา ซิล และ ได้ พบ ว่า มด พันธุ์ นี้ มี ความ เชี่ยว ชาญ ใน การ ล่า ทาส มาก คือ เวลา มัน ทำ สงคราม มด ชนะ มัน จะ บุก เข้า ยึด รัง มด ที่ แพ้ สงคราม แล้ว จับ มด ทาส ที่ ประจำ อยู่ ใน รัง นั้น มา เป็น ทาส รับ ใช้ มัน จาก นั้น มัน จะ ขน ไข่ มด ที่ แพ้ สงคราม กลับ ไป พัก ที่ รัง มัน ทัน ที ที่ ไข่ สุก ลูก มด ใหม่ จะ มี จิต ใจ เป็น ทาส ยิน ยอม รับ ใช้ มด Polygerus โดย ไม่ ต้อง สั่ง มด ทาส นั้น ตาม ปกติ มี ฐานะ ทางสังคม ต่ำ สุด มัน จึง ไม่ มี สิทธิ์ สืบ พันธุ์ ใดๆ ดัง นั้น เวลา มด ทาส ตาย มด นาย ก็ ต้อง ออก สงคราม เพื่อ ล่า มด ทาส มา รับ ใช้ มัน อีก เพราะ ถ้า ไม่ ออก ศึก หา ทาส มัน ก็ จะ อด อาหาร ตาย เมื่อ มี มด ทาส แล้ว วันๆ มัน จะ นั่ง อ้อน ขอ อาหาร จาก มด ทาส ตลอด เวลา ส่วน มด Aolenopsis invicta ซึ่ง เป็น มด คัน ไฟ ที่ มี ชีวิต อยู่ ใน ทวีป อเมริกา ใต้ และ ขณะ นี้ กำลัง คุก คาม ผู้ คน และ ที่ อยู่ อาศัย ใน ทวีป อเมริกา เหนือ อยู่ R. Hickling แห่ งม หา วิทยา ลัย Mississippi ใน สหรัฐ อเมริกา ได้ พบ ว่า มัน สามารถ ติด ต่อ สื่อ สาร กัน ด้วย เสียง และ กลิ่น ได้ โดย เขา ได้ ถ่าย ภาพ มด ชนิด นี้ และ บัน ทึก เสียง ของ มด และ เขา ได้ พบ ว่า เวลา มด ตก ใจ มัน จะ ส่ง เสียง ดัง หรือ เวลา ศัตรูปรากฏตัว ให้ เห็น อย่าง ทัน ที ทัน ใด มัน ก็ จะ ส่ง เสียง อื้อ อึง เห มือ นก ัน เพราะ เหตุ ว่า เสียง เดิน ทางได้ เร็ว กว่า โมเลกุล Pheromone ของ กลิ่น ดัง นั้น มด จะ ใช้ เสียง เฉพาะ ใน กรณี สำคัญๆ เท่า นั้น
การ ที่ มด มี การ แบ่ง ชั้น วรรณะ เช่น นี้ ได้ ทำ ให้ นัก ชีววิทยา บาง คน คิด ว่า มด เป็น สัตว์ ที่ มี สติ ปัญญา เฉลียว ฉลาด ยิ่ง กว่า ลิง การ มี สติ ปัญญา ที่ สูง ใน สมอง ที่ เล็ก นี้ ได้ ทำ ให้ มัน มี วัฒนธรรม หนึ่ง ที่ ประเสริฐ ยิ่ง กว่า คน คือ ความ รู้ สึก สามัคคี ทุก หมู่ เหล่า ของ มด เพราะ สังคม มด เป็น สังคม สหชีวิต ที่ ชีวิต ทุก ชีวิต มี ความ หมาย ต่อ ทุก ชีวิต อื่น อย่าง ที่ เรียก กัน ว่า altruism ที่ สังคม คน ไม่ มี ครับ
นอก จาก นี้ มด ยัง จำ ทิศ ทาง ได้ เป็น อย่าง ดี นัก ชีววิทยา ชาว อเมริกัน ได้ ศึกษา ถึง วิธี การ ที่ มด จำ ทิศ ทาง กลับ ไป ยัง แหล่ง อาหาร โดย วาง กรวย สี ดำ สูง ประมาณ 10 เซนติเมตร บน โต๊ะ และ วาง น้ำ ตาล ไว้ ใกล้ๆ มด แต่ ละ ตัว จะ ถูก ปล่อย ให้ ออก จาก รัง เพื่อ ไป ยัง น้ำ ตาล ตัว ละ เที่ยว เขา พบ ว่า ขณะ กลับ รัง หลัง จาก พบ น้ำ ตาล แล้ว มด จะ หัน หลัง ไป ดู กรวย สี ดำ และ น้ำ ตาล บ่อยๆ เมื่อ กลับ มา ที่ น้ำ ตาล อีก ครั้ง มด จะ เดิน มา ใน แนว ทางเดิม
เนื่อง จาก มด มี สมอง ที่ เล็ก มาก (น้อย กว่า 1 ลูกบาศก์ มิลลิเมตร) การ มอง เห็น ไม่ ดี ระบบ การ มอง เห็น เป็น แบบ ง่ายๆ ตา ของ มด ไม่ สามารถ หมุน รอบ ได้ ดัง นั้น ภาพ ที่ ตก บน จอ รับ ภาพ (เรติ นา) ขึ้น อยู่กับตำแหน่ง ของ ตัว มด เมื่อ หยุด มอง สิ่ง ที่ สังเกต มด จะ จำ วัตถุ นั้นๆ ได้ อย่าง ที่ ตา เคย มอง เห็น ถ้า เห็น วัตถุ นั้น อีก แต่ อยู่ ใน สภาพ แวด ล้อม อื่น มด จะ จำ วัตถุ นั้น ไม่ ได้ เมื่อ ให้ มด ไป ยัง น้ำ ตาล และ กลับ รัง หลายๆ ครั้ง มด จะ หา สิ่ง ที่ เป็น สังเกต มาก ขึ้น มด ที่ รู้ แหล่ง อาหาร แล้ว เมื่อ จะ กลับ ไป ที่ แหล่ง อาหาร อีก ก็ จะ ปล่อย สาร เคมี ที่ เรียก ว่าฟีโรโมน ไป ตาม ทางที่ เกิน เพื่อ ให้ มด ที่ เหลือ นั้น ตาม ไป ได้ ถูก ทาง มด ที่ เดิน ตาม โดย อาศัยฟีโรโมน ก็ หา สิ่ง ที่ เป็น สังเกต สำหรับ ตน เอง เช่น กัน ทำ ให้ ใน การ ไป แหล่ง อาหาร ครั้ง ต่อ ไป ทำ ได้ เร็ว ขึ้น
ทำไมมดถึงเดินเป็นแถว?
เรื่องราวของ “ ฟีโรโมน ” กับแมลงที่สังเกตได้อย่างชัดเจนก็คือ มันจะมีบทบาทอย่างมากต่อแมลงที่มีการใช้ชีวิตอยู่เป็นกลุ่ม หรือแมลงสังคมที่มีประชากรในรังมากมายนับพันนับหมื่นตัว ในขณะที่แมลงแต่ละตัวก็มีหน้าที่แตกต่างกันไป ทั้งเลี้ยงดูตัวอ่อน ขยายพันธุ์ หาอาหาร หนึ่งในตัวอย่างของแมลงสังคมที่เราจะทำความรู้จักกันในวันนี้คือ แมลงตัวน้อยที่แข็งแรงอย่าบอกใคร บอกใบ้ให้สักนิดว่า ตัวของมันเล็กนิดเดียว แต่สามารถยกของที่มีน้ำหนักมากกว่าตัวของมันได้ถึง 10 เท่า
คำตอบของเรื่องราวในวันนี้ก็คือ มดตัวน้อยตัวนิดนั่นเอง แต่จะเกิดอะไรขึ้นบ้างเมื่อมดตัวแค่นี้ปล่อยฟีโรโมน สารเคมีที่มีอยู่ในร่างกาย เราลองมาหาคำตอบกันดีกว่า
มดในโลกใบนี้มีจำนวนมากมายถึง 1 หมื่นชนิด สำหรับประเทศไทยเองก็คาดว่าจะมีอยู่นับพันชนิด แม้ว่าเราอาจรู้จักมดอยู่เพียงไม่กี่ชนิด มดแดง มดคันไฟ มดตะนอย มดเหล่านี้ล้วนแล้วแต่ดุไม่ใช่ย่อย กัดเจ็บอีกต่างหาก แล้วรู้หรือไม่ละว่าในรังของมดมีประชากรอยู่มากมายมหาศาล นอกจากนั้น มดยังเป็นแมลงสังคมที่อยู่ร่วมกันโดยมีการแบ่งหน้าที่ แบ่งวรรณะในการทำงาน ทั้งมดงาน มดนางพญา และมดตัวผู้ แต่สำหรับเรื่องราวในวันนี้พระเอกของเรื่องต้องยกให้กับมดประเภทเดียวนั่นก็คือ มดงาน
หลายคนอาจบอกว่าไม่ได้มีความรู้สึกว่าจะชื่นชอบเจ้าแมลงตัวนี้สักเท่าไร นอกจากจะสร้างความน่ารำคาญแล้ว บางชนิดยังกัดเจ็บ สร้างความแสบคันอีกต่างหาก แต่หากเราลองศึกษาพฤติกรรมของมดงานกันแล้วละก็ น่าตื่นเต้น และไม่ใช่เรื่องธรรมดาเลย!
เมื่อเราทำขนมตกบนพื้นในห้องครัว เพียงไม่กี่นาทีต่อมาขบวนมดแถวยาวเหยียดก็เดินทางมาถึง และพร้อมแล้วที่จะแบกขนมให้หายไปในพริบตา แต่รู้ไหมละว่าขั้นตอนก่อนที่มดน้อยจะมาถึงนั้น มีขั้นตอนมากมายในการติดต่อสื่อสารกัน เมื่อมดงานเพียง 23 ตัวเดินทางมาพบเศษขนม มดงานจะทำอย่างไรเพื่อบอกกับเพื่อนมดให้เดินทางมายังอาหารแหล่งนี้ สิ่งแรกที่มดงานตัวที่พบอาหารจะทำก็คือ ปล่อยสารเคมีชนิดหนึ่งออกมาจาก ต่อมดูฟอร์ (Dufoue’s Gland) ซึ่งเป็นสารที่มดงานทุกตัวมีอยู่ในร่างกาย สารเคมีที่ถูกปล่อยออกมานี้ก็คือ ฟีโรโมนประเภทกรดฟอร์มิก (หรือที่หลายคนคุ้นเคยกับคำว่า กรดมด) ซึ่งฟีโรโมนชนิดนี้มีส่วนสำคัญในการสื่อสารกันของมด นอกเหนือจากการใช้หนวดสัมผัสกัน
จากการสังเกตพฤติกรรมในการเดินของมด ก็อดรู้สึกแปลกใจไม่ได้ว่า ทำไมมดจึงเดินเรียงแถวกันเป็นระเบียบเรียบร้อยมากถึงขนาดนี้ ทั้งๆ ที่ในรังของมดเองก็ออกจะเต็มไปด้วยความสับสนวุ่นวาย มดแต่ละตัวแทบจะเดินชนปีนป่ายตามตัวกัน
คำตอบของความเป็นระเบียบเรียบร้อยนี้ เกิดขึ้นอันเนื่องมาจากการที่มดตัวหน้าปล่อยฟีโรโมนทิ้งเอาไว้ มดตัวที่เดินติดตามไปก็จะปล่อยฟีโรโมนเรื่อยไป ดังนั้นตามเส้นทางที่มดเดินก็จะมีแต่กลิ่นของฟีโรโมน เรียกได้ว่าหากมดตัวไหนชักช้าไม่ทันเพื่อนก็ยังสามารถเดินไปยังอาหารได้ไม่หลงทาง
ถ้าหากว่ามีอาหารหลายแหล่งในพื้นที่เดียวกันละ มดจะสับสนหรือเปล่าว่าต้องเดินไปทางไหนดี แล้วมันจะเกิดอะไรขึ้น?
ข้อดีของฟีโรโมนอย่างหนึ่งก็คือ สามารถระเหยได้ในระยะเวลาอันรวดเร็วเพียงไม่กี่นาที ดังนั้นเมื่อมดงานค้นพบแหล่งอาหารหลายแห่งในพื้นที่ใกล้เคียงกัน มดจึงไม่เกิดความสับสนว่าจะเดินไปยังแหล่งใด แต่มดจะเลือกแหล่งอาหารที่มีกลิ่นฟีโรโมนแรงที่สุด ซึ่งนั่นก็หมายถึงแหล่งอาหารแหล่งใหม่ที่สุดด้วยนั่นเอง
ลองมาดูการศึกษาถึงพฤติกรรมอันแสนฉลาดของมดกันต่อ จากการศึกษาพฤติกรรมการเดินตามกลิ่นฟีโรโมนของมด ทำให้มีนักวิทยาศาสตร์กลุ่มหนึ่งเกิดความสงสัยว่า ถ้าหากเอาสิ่งของมากั้นระหว่างทางเดินเพื่อให้มดเหล่านั้นเดินอ้อมไป ความน่าจะเป็นไปได้ก็คือ มดน่าจะแบ่งแยกทางเดินกลุ่มหนึ่งเดินไปทางซ้าย และอีกกลุ่มหนึ่งเดินไปทางขวาเพื่อข้ามสิ่งกีดขวาง แล้วกลับมาเรียงแถวเดียวกันตามเดิมเพื่อเดินไปยังแหล่งอาหาร
แต่เมื่อ Beckers และคณะของเขาได้ทำการทดลองก็ต้องแปลกใจ เมื่อพบว่าเจ้ามดงานเหล่านั้นเลือกเดินไปในทางเดียวกัน ซึ่งไม่น่าเชื่อว่ามดเลือกเดินทิศทางที่มีระยะทางสั้นที่สุดไปยังแหล่งอาหาร นี่ก็เป็นความฉลาดอย่างน่ามหัศจรรย์ของมด สงสัยกันบ้างหรือเปล่าว่า มดรู้ได้อย่างไรว่าระยะทางไหนสั้น ระยะทางไหนยาวไกลกว่ากัน ความจริงแล้วมดไม่ได้คิดเองได้หรอก แต่เป็นเพราะกลิ่นฟีโรโมนจากแหล่งอาหารที่มดงานตัวแรกทิ้งเอาไว้ต่างหาก ถ้าหากระยะทางที่ไปยังอาหารก้อนนั้นสั้นก็จะได้กลิ่นฟีโรโมนที่แรงมากกว่าระยะทางยาวไกลที่มีกลิ่นเจือจาง
ถ้าหากว่ามีอาหารหลายแหล่งในพื้นที่เดียวกันละ มดจะสับสนหรือเปล่าว่าต้องเดินไปทางไหนดี แล้วมันจะเกิดอะไรขึ้น?
ข้อดีของฟีโรโมนอย่างหนึ่งก็คือ สามารถระเหยได้ในระยะเวลาอันรวดเร็วเพียงไม่กี่นาที ดังนั้นเมื่อมดงานค้นพบแหล่งอาหารหลายแห่งในพื้นที่ใกล้เคียงกัน มดจึงไม่เกิดความสับสนว่าจะเดินไปยังแหล่งใด แต่มดจะเลือกแหล่งอาหารที่มีกลิ่นฟีโรโมนแรงที่สุด ซึ่งนั่นก็หมายถึงแหล่งอาหารแหล่งใหม่ที่สุดด้วยนั่นเอง
ลองมาดูการศึกษาถึงพฤติกรรมอันแสนฉลาดของมดกันต่อ จากการศึกษาพฤติกรรมการเดินตามกลิ่นฟีโรโมนของมด ทำให้มีนักวิทยาศาสตร์กลุ่มหนึ่งเกิดความสงสัยว่า ถ้าหากเอาสิ่งของมากั้นระหว่างทางเดินเพื่อให้มดเหล่านั้นเดินอ้อมไป ความน่าจะเป็นไปได้ก็คือ มดน่าจะแบ่งแยกทางเดินกลุ่มหนึ่งเดินไปทางซ้าย และอีกกลุ่มหนึ่งเดินไปทางขวาเพื่อข้ามสิ่งกีดขวาง แล้วกลับมาเรียงแถวเดียวกันตามเดิมเพื่อเดินไปยังแหล่งอาหาร
แต่เมื่อ Beckers และคณะของเขาได้ทำการทดลองก็ต้องแปลกใจ เมื่อพบว่าเจ้ามดงานเหล่านั้นเลือกเดินไปในทางเดียวกัน ซึ่งไม่น่าเชื่อว่ามดเลือกเดินทิศทางที่มีระยะทางสั้นที่สุดไปยังแหล่งอาหาร นี่ก็เป็นความฉลาดอย่างน่ามหัศจรรย์ของมด สงสัยกันบ้างหรือเปล่าว่า มดรู้ได้อย่างไรว่าระยะทางไหนสั้น ระยะทางไหนยาวไกลกว่ากัน ความจริงแล้วมดไม่ได้คิดเองได้หรอก แต่เป็นเพราะกลิ่นฟีโรโมนจากแหล่งอาหารที่มดงานตัวแรกทิ้งเอาไว้ต่างหาก ถ้าหากระยะทางที่ไปยังอาหารก้อนนั้นสั้นก็จะได้กลิ่นฟีโรโมนที่แรงมากกว่าระยะทางยาวไกลที่มีกลิ่นเจือจาง
ในที่สุดเราก็รู้ว่าฟีโรโมนของมดช่วยทำให้เรื่องใหญ่โตอย่างเรื่องของอาหาร กลายเป็นเรื่องเล็กๆ ไร้ปัญหาได้อย่างไม่น่าเชื่อ
อ้างอิงจาก
ทำไมมดถึงเดินเป็นแถว
http://www.sahavicha.com/name=article&file=readarticle&id=1227
มด
มด
https://web.ku.ac.th/schoolnet/snet4/may11/ant.ht
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น